วันอังคาร, มกราคม ๒๙, ๒๕๕๑

ภรรยา (อีกแล้ว)

นึกไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร ก็ต้องวนมาเขียนเรื่องภรรยาสุดที่เคารพอีกจนได้ ก็มันเป็นเรื่องที่นึกได้ง่ายที่สุด และก็เยอะที่สุดนี่นา เชื่อว่าทุกคนที่มีภรรยา (เป็นของตนเอง) น่าจะคิดเหมือนกับผม กาลครั้งหนึ่ง ยังไม่ค่อยนานเท่าไร ขณะที่กระผมรับราชการอยู่ที่ สภ.กิ่ง อ.เทพารักษ์ โคราช กระผมมีหน้าที่ต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์ หลายคนอาจมีคำถามอยู่ในใจ “ทำไมมึงต้องกลับทุกอาทิตย์วะ?” คำตอบก็คือว่า “กูต้องกลับมาปฏิบัติหน้าที่สามีที่ดี” เรื่องจริงๆนะนี่ ขอบอก คำถามต่อมา “หน้าที่สามีที่ดีของมึงคืออะไรวะ” “เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยนะ ซักผ้าทุกชนิดที่มีอยู่ในบ้าน ล้างจาน อาบน้ำหมา (บางแก้ว) ซื้อของเข้าบ้าน ... ฯลฯ แล้วแต่ภรรยาที่เคารพจะนึกได้” ก็ภรรยาผมสอนไว้ว่า “เชื่อภรรยาเหอะ ได้ดีทุกคน” ด้วยความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจที่ถูกฝึกฝนมาให้มีวินัย แม้ว่าบางครั้งจะฝืนความรู้สึกอยู่บ้าง แต่ผมก็ปฏิบัติตามด้วยความเคร่งครัดเสมอมา (เต็มที่...แต่ไม่เต็มใจ...โว้ยยยยยยยย) และด้วยความที่รถก็เก่า เมียก็..................น่ารัก ก็เกิดเรื่องให้มาเขียนอีกจนได้ กลางดึกคืนหนึ่ง (ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ) หลังจากที่กระผมตรากตรำทำหน้าที่ข้าราชการตำรวจที่ดีมาตลอดสัปดาห์ ผมก็รีบขับรถยนต์ เมอร์ซิเดส เบนซ์ รุ่นใหม่ล่าสุด (เมื่อซักสามสิบปีที่แล้ว) กลับมาถึงเรือนจำ (บ้านแม่กะทินั่นแหละ) มาถึงก็ดึกแล้ว ผมก็ล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อยล้า แต่แล้วก็ได้มีเสียงสวรรค์ปลุกผมตั้งแต่ตีห้า กะทิ : “วันนี้ไม่ต้องไปไหนะ เอารถมายืมหน่อย จะพาพี่ๆที่มาจากทางใต้ไปอัดรายการจมูกมดหน่อย รถเธอคันใหญ่ดี นั่งได้หลายคน” (วันนั้น เป็นวันที่พวกสตรีเหล็ก พฐ.ที่ทำงานอยู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาออกรายการจมูกมด) ผม : “ค้าบบบบบบบ” (ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอยู่แล้วนี่ จะต้องมาขอทำไมวะ เสียเวลานอนเปล่าๆ และแม่ของผมก็สอนไว้ว่า รบกวนคนกำลังหลับ บาปกรรมนะ) อันนี้ผมคิดในใจนะ ไม่กล้าออกเสียง กะทิ : “อย่าลืมเปิดช่อง ๗ ดูด้วยนะ” ผมนึกในใจ “คงจะเปิดหรอก นอนต่อดีกว่า ง่วงอิ๊บอ๊าย” แต่ก่อนจะสิ้นสติไป เปลือกตาขวาผมเริ่มกระตุกสองสามครั้ง ลางไม่ดีแล้วกู เรื่องมันน่าจะจบแค่ผมนอนหลับเต็มที่ ตื่นมาหาข้าวกิน แล้วก็ปฏิบัติหน้าที่สามีดีเด่นแห่งชาติ แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ อีก ๓ ชั่วโมงต่อมา “กริ๊ง ๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังข้างหู ผม : “อาโหล” ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ ต่อมาก็มีแต่เสียงแม่ภรรยาสุดเคารพของผมกระแทกมาตามสายโทรศัพท์ จนโทรศัพท์แทบจะระเบิด ผมพอจับใจความได้เท่าที่สติในขณะนั้นพอจะมี “นี่..คิดจะฆ่าชั้นหรือไงยะ ไม่อยากให้ยืมรถก็บอกกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องทำยังงี้เลย มันหมายความว่ายังไง..................” อะไรวะ รถก็ให้ยืมแล้ว คนจะนอนซะหน่อย จะเอาอะไรอีกวะ ด้วยความโกรธสุดขีดที่ถูกปลุกถึง ๒ ครั้งในตอนเช้า กระผมจึงสวนกลับไปว่า “เธออยู่ไหน เป็นอะไรเหรอ” กะทิ : “ล้อหลุดน่ะดิ ชั้นอยู่หน้าโรงพยาบาลรามา ไปชนรถของเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ด้วย ดีนะที่ไม่หลุดบนทางด่วน กะจะฆ่าให้ตายเลยเหรอ” ผม : “ป่าวคับ ใครจะกล้า ว่าแต่ว่าล้อหลุดไหนล่ะ” กะทิ : “ล้อหลัง ด้านซ้าย” ผมนึกขึ้นมาได้ ก่อนกลับจากโคราช ผมเพิ่งไปเปลี่ยนยางมา ๔ เส้น ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แหงๆ แล้วไอ้ที่เวลารถวิ่งแล้วเสียงดัง ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเพราะเปลี่ยนยางมาใหม่ มันคงยังไม่เข้าที่ ที่แท้เป็นเพราะมันขันน๊อตไม่แน่นนี่เอง ผม : “เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ รถเสียไม่เป็นไรซ่อมได้ เอาเข้าร้านซ่อมไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวไปจ่ายตังค์ให้” ผมตอบไปตามวิชาการเจรจาฯ ที่ได้ศึกษามาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพื่อให้กะทิฟังดูแล้วสบายใจ และผมก็ดูเป็นคนดีในสายตาของเธอ หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว ผมเหมือนคนเสียสติ เอาหัวโขกที่นอนสามที แล้วสบถกับตัวเองว่า “ไอ้ร้านยางบ้า ทำไมมึงขันน๊อตไม่แน่นแค่ล้อเดียววะ”

๔ ความคิดเห็น:

  1. เอาอีกแล้ว เอาเรื่อพี่ทิมาเผา เอ้ย เล่า อีกแล้ว สว ดามพ์ สุดหล่อ

    ตอบลบ
  2. เข้ามาทักทาย ครับสารวัตร
    อย่าลืมนะนัดต่อไปอย่าลืมโทรมาชวนด้วยนะ

    ตอบลบ
  3. ดามพ์ นอกจากทำงานเก่ง เอ็งยังเป็นนักเขียนที่ดีด้วยนะ ที่สำคัญได้เมียที่น่าเคารพด้วย พี่รออ่านเวอร์ชั่นต่อไปนะ

    ตอบลบ
  4. เขียนมันส์ดีอะ . . แจ๋ว ๆ ๆ เพื่อนตรู . . อิ อิ อิ

    ตอบลบ