วันพุธ, กุมภาพันธ์ ๒๘, ๒๕๕๐

FBI

ชีวิตรับราชการของผม ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีโอกาสรู้จักกับนายพล อยู่ฝ่ายปฏิบัติมาตลอด 12 ปี รู้จักเต็มที่ก็แค่ผู้กำกับการในโรงพักที่ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่แล้ววันหนึ่งฟ้าก็ลิขิตให้ผมได้รู้จักกับท่าน พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. ไม่น่าเชื่อ!!! ผมได้รู้จักกับนายพลตำรวจเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมได้มาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงาน รอง ผบ.ตร. ซึ่งท่านมีภารกิจส่วนใหญ่เกี่ยวกับตำรวจต่างชาติ วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง นายหมู ( พล.ต.อ.อิสระพันธ์ฯ) บอกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เชิญ FBI มาฝึกเรื่องการตรวจสถานที่เกิดเหตุระเบิดให้ 2 สัปดาห์ที่ รร.ตร.ภ.2 จังหวัดชลบุรี และพวกเราต้องช่วยกันจัดการหลักสูตรฯโดยผมกับกะทิ (แม่มดของผม) มีหน้าที่ดูแลครูฝึก พระเจ้าช่วยผมดีใจมากที่จะได้เจอ FBI ตัวเป็นๆ มันจะเท่ห์เหมือนในหนังรึป่าว แล้ววันนั้นก็มาถึง ทีมงานของนายหมูและผมก็ได้ไปรับคณะครูฝึกจาก FBI ที่สนามบินดอนเมือง นำโดยคุณลุง Frank และคณะรวม 5 คน ตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมา ภาษาอังกฤษที่ผมเคยได้ร่ำเรียนมาตลอดระยะเวลา 12 ปี จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ก็เริ่มถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ด้วยความที่ไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานานมันก็นึกออกมั่งไม่ออกมั่งเป็นธรรมดา แต่ผมก็ไม่หวั่นไหว ตีหน้ามึนสู้กับมันไป ฟังออกไม่ออกก็ทำหน้าตาเข้าใจ อันไหนฟังออกก็ตอบ ฟังไม่ออกก็ยิ้มๆไป แค่นี้ก็ดูเหมือนเจ้าบ้านใจดีแล้วหละ แต่ผมก็อุ่นใจที่ยังมีกะทิซึ่งภาษาอังกฤษเป็นเลิศ (อ่าน Bangkok Post ทุกวัน) คอยช่วยเหลือ ตารางการฝึกของหลักสูตรนี้จะ 2 สัปดาห์ หยุดวันเสาร์อาทิตย์ ทุกวันที่มีการฝึก ผมจะรู้สึกสบายใจมาก เพราะว่าหน้าที่ชองผมมีเพียงพาครูฝึกมาถึงสถานที่ฝึกอบรม ส่งครูฝึกกลับถึงที่พัก และคอยดูแลทั่วๆไป แต่จะหนักใจมากในวันที่ไม่มีการฝึก เพราะว่าต้องมีหน้าที่ดูแล คณะครูฝึกทั้งวัน อยากไปไหนก็ต้องพาไป ส่วนมากก็จะไปกันใกล้ๆ เป็นหมู่คณะ แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมแทบช๊อค วันนั้นคณะครูฝึกอยากไปเที่ยวพระบรมมหาราชวังที่กรุงเทพ ได้เลยพี่ ดามพ์จัดให้ ไม่ยากอยู่แล้ว วันนั้นเราไปกันทั้งหมด 8 คน มี คณะ FBI 5 คน , คนขับรถตู้ , กะทิ และก็ผม ผมในฐานะหัวหน้าคณะ (ผมแต่งตั้งตัวเอง) ได้สั่งการให้กะทิเป็นมัคคุเทศก์คอยนั่งอรรถาธิบายคณะ FBI ซึ่งนั่งกันอยู่หลังรถตู้ ส่วนผมนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับรถ เพราะอะไรเหรอ ลองทายดูดิครับ ............คอยกำกับเส้นทางเหรอ เป็นเหตุผลที่ดีนะ..............แต่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดของผมหรอก จริงๆแล้ว ผมกลัวการคุยกับฝรั่งต่างหาก มันเครียดนะ ใครไม่เชื่อ ก็ลองไปนั่งในฝูงฝรั่ง 5 คน ที่มีอัธยาศัยดีๆ ชอบพูดคุย สักชั่วโมง มันบอกไม่ถูกนะ อยากคุยด้วย แต่ภาษาอังกฤษเราเหลือแค่ present simple tense ส่วนอันอื่นคืนให้ครูไปหมดแล้ว “ดามพ์ Mr.Ray เค้าอยากไปซื้อของที่สุขุมวิท ส่วนคนอื่นเค้าอยากไปพระบรมมหาราชวัง แล้วก็ไปนั่งเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา เธอจัดให้หน่อยดิ” กะทิตะโกนมาจากด้านหลัง หูอื้อ ตาลาย สติแตกไปสองนาที เหมือนคอมพิวเตอร์แฮงก์ ต้องรีบูทเครื่องใหม่ ครั้งที่แล้วก็ทีนึงแล้ว นั่งเรือไปกับนายหมู พาพวกทูตไปนั่งเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา เรือผ่านองค์การสะพานปลากรุงเทพ ก็มีฝรั่งถามผมว่าตรงนั้น (เอามือชี้ไปที่องค์การสะพานปลากรุงเทพ) คืออะไร นายหมูก็มองหน้าผมแล้วบอกว่า “เคยเป็น รอง สวป.แถวนี้นี่เรา ตอบเค้าหน่อย” ซวยแล้วกู องค์การสะพานปลาภาษาอังกฤษเค้าว่าอะไรวะ “เอ้า ว่าไง ตรงนั้นมันอะไร” นายหมูถามอีก “ Bangkok Fish Bridge Organization …SIR” นายหมู และ ฝรั่ง ??? แล้วคราวนี้ต้องพา Mr.Ray ไปซื้อของเดี่ยวๆเนี่ยนะ จะรอดดีมั๊ยกู แต่เอาวะ อ.ตร.เผ่าฯ บอกว่า “ภายใต้ดวงอาทิตย์ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ...” ลองเชื่อ อ.ตร.เผ่า ดูสักที ว่าแล้วผมก็บอกให้รถตู้ไปส่งผมกับ Mr.Ray ที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อไปขอยืมรถจาก พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล ผกก.สน.ชนะสงครามในขณะนั้น เพื่อพา Mr.Ray ไปซื้อของ ส่วนคณะที่เหลือกะทิรับผิดชอบพาไปล่องเรือ และชมพระบรมมหาราชวัง เอาก็เอาวะ ฝรั่งคนเดียวคงไม่ยากเท่าไร ดีกว่าไปกับฝรั่งทั้งฝูง เมื่ออยู่บนรถสองต่อสองกับ Mr.Ray ผมเริ่มเหงื่อออกตามง่ามนิ้วมือและเท้า ตัวเย็นเจี๊ยบ ทั้งที่อากาศข้างนอกก็ร้อนโคตรๆ สายตาจับจ้องไปข้างหน้าไม่วอกแวก มีสมาธิกับการขับรถเต็มที่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ ขอร้องมึงล่ะ อย่าพูดอะไรกับกูนะ กูจะขับรถ” ผมภาวนาในใจ แต่เหมือน Mr.Ray พยายามจะแกล้งผม ถามโน่นถามนี่ตลอด ตอนมึงนั่งรถมามึงไม่ถามกะทิให้เรียบร้อยก่อนวะ มาถามอะไรกะกู อะไรฟังออกก็ตอบ ฟังไม่ออกก็ยิ้มไป ตามสูตรเราดีกว่า มีอยู่คำถามนึงที่ผมฟังออกแต่ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง Mr.Ray ถามผมว่าชอบกินอะไร ผมชอบกินข้าวขาหมู แต่ภาษาอังกฤษมันว่ายังไงวะ Rice Leg pig เหรอ คงไม่ใช่แน่นอน เผอิญรถผ่านแมคโดนัล ตรงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เอาไอ้นี่แหละง่ายดี “ I like McDonald” ผมไม่เคยคิดเลยว่าคำตอบอันนี้จะมีผลในภายภาคหน้า และแล้ววันนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยความทุลักทุเล เมื่อฝึกเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงวันที่คณะ FBI จะกลับ และด้วยความมีน้ำใจของคณะครูฝึกจาก FBI Mr.Frank หัวหน้าครูฝึกก็ได้เชิญนายหมูพร้อมคณะผู้จัดการฝึกอบรมและผู้เข้ารับการฝึกอบรมทั้งหมดไปร่วมรับประทานอาหารค่ำกันที่บริเวณริมสระน้ำโรงแรมที่คณะครู FBI พักอยู่ พอคณะพวกเราไปถึงที่บริเวณสระน้ำ ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างงงงวย ก็ลุง Frank แกเล่นเหมา Mcdonald ทั้งร้านมาเลี้ยงพวกเราที่ริมสระน้ำ พวกเราทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตากินแฮมเบอร์เกอร์กัน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีคำถามแหงๆ ทำไมถึงเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์วะ แล้วผมก็คิดไม่ผิด นายหมูถามกลางวงว่า “แปลกนะ ฝรั่งเลี้ยง McDonald อาหารค่ำ ไม่รู้ว่าคิดยังงไง ใครบอกให้เลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์เนี่ย” มองหน้ากันอีกครั้ง ท่ามกลางความเงียบสงัด ผมก็ยกมือแล้วก็บอกนายว่า “ขออนุญาตครับ ผมเองครับนาย ก็ Mr.Ray ถามผมว่าชอบกินอะไร ผมไม่รู้จะตอบยังไง ก็เลยตอบว่าชอบกิน McDonald คาดเค้าคงเอาผมเป็นบรรทัดฐาน นึกว่าคนไทยทุกคนชอบกิน ผมไม่นึกว่าเค้าจะเอามาเลี้ยง dinner ยังงี้ครับ” นายหมู “........” อึ้งเลยหรือครับนาย ครั้งหน้าถ้ามีฝรั่งมาถามผมว่าผมชอบกินอะไร ผมตั้งใจไว้ว่าจะตอบอย่างมั่นใจ “ I like monk jump over the wall …SIR” ผมสัญญา

1 ความคิดเห็น:

  1. รอ ตั้งนาน นาน นาน กว่าจะได้ อ่าน
    แต่ ก็สนุกมากกกกก เหมือนเดิม ค่ะ
    รีบๆ ออก เรื่องใหม่ มา เย็วๆ นะคะ สว ส
    ,,,น้องโอ๊ะ,,,
    ปล ต้อง สมัคร จีเมลล์ด้วย เหรอ ถึงจะเมนท์ ได้

    ตอบลบ