วันพุธ, กุมภาพันธ์ ๒๘, ๒๕๕๐

แดง ไบเลย์

การเป็นตำรวจ มีหน้าที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ด้วยภารกิจหน้าที่จึงต้องกระทบกระทั่งกับคนหลายประเภทที่กระทำผิดกฎหมาย บางครั้งก็เจอคนดี ที่ทำผิดก็รับผิด (ลูกผู้ชายตัวจริง นับถือจริงๆครับ) แต่หลายครั้งก็เจอกับพวกที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด มีเหตุผลนานับประการ แต่ฟังแล้วทะแม่งๆยังไงไม่รู้ เหตุผลกับข้อแก้ตัวมีความหมายใกล้เคียงกันมาก ผมคิดว่ามันน่าจะต่างกันตรงที่ เหตุผลทุกคนฟังแล้วเข้าใจได้ ยอมรับได้ แต่ข้อแก้ตัว มันผู้นั้นเข้าใจคนเดียว ยอมรับได้คนเดียว คนอื่นไม่เข้าใจ ยอมรับไม่ได้ แค่นั้นเอง (เห็นด้วยรึป่าว) ราวๆปี 2540 ขณะนั้นผมปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าสายตรวจที่ สน.ชนะสงคราม ที่ สน.ชนะสงครามนี้ เป็นที่ที่ผมได้พบกับ พ.ต.ท.วิชาญ บริรักษ์กุล รอง ผกก.(ป) ฯ (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ผู้ซึ่งเป็นทั้ง ผู้บังคับบัญชา ,พี่ และอาจารย์ผู้สอนสั่งวิชาการตำรวจให้กับผมในหลายๆเรื่อง ทั้งที่มีในตำราเรียน และไม่มีในตำราเรียน รวมทั้งแนวทางในการดำเนินชีวิตราชการ และผมก็รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้รับราชการที่นี่ เพราะว่าที่นี่มีสถานที่สำคัญมากมาย วังเทเวศก์ วังบางขุนพรหม วัดบวรนิเวศ สนามหลวง ถนนพระอาทิตย์ ท่าพระจันทร์ ถนนสิบสามห้าง ถนนข้าวสาร บางลำพู ฯลฯ พื้นที่ 2.09 ตารางกิโลเมตร ของ สน.ชนะสงคราม มีรอยเท้าผมเดินแทบทุกตารางนิ้ว ผมชอบการเดินตรวจท้องที่เพราะว่ามันสามารถเห็นวิถีชีวิตของคนได้อย่างละเอียด เห็นสภาพความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่และคนในแต่ละวัน เห็นตั้งแต่ขอทาน คนบ้า ไปจนถึงเจ้าของบริษัท ห้างร้าน ช่วงเวลานั้น ภาพยนต์เรื่อง 2499 อันธพาลครองเมือง กำลังดังสุดขีด ผมก็ได้เห็นสภาพของถนนสิบสามห้าง ที่ แดง ไบเลย์ ยกพวกตีกับ ปุ๊ ระเบิดขวด บางลำพูที่เป็นฉากสำคัญผมก็เดินตรวจทุกวัน ดูหนังเข้าไปแล้วอินจริงๆ และแล้วคืนหนึ่ง ผมไม่คาดคิดว่าจะเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับหนังเรื่องนี้ และผู้เกี่ยวข้องก็เป็นญาติของตัวละครในเรื่อง ซึ่งขณะนั้นเป็นคนหนึ่งที่ผมชื่นชอบมาก “เป็นเมียเราต้องอดทน” ใช่แล้วครับ แดง ไบเลย์ คืนนั้น ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ขณะที่ผมกำลังออกตรวจท้องที่อยู่กับลูกน้องคู่ใจ ส.ต.ต.สุพจน์ โพธิ์งาม (ยศในขณะนั้น) ผ่านมาถึงถนนตะนาว ก็เจอกลุ่มวัยรุ่นเมาสุรากำลังทะเลาะวิวาทกันอยู่ ผมกับ ส.ต.ต.สุพจน์ฯ จึงเข้าไประงับเหตุ แต่อย่างว่าแหละครับ คนเมา ตำรวจเซ็ง (จริงๆนะ) เถียงกันไปเถียงกันมา ผมว่ามันคงจะไม่จบง่ายๆแน่ๆ เอาไปคุยกันที่โรงพักดีกว่า “ไอ้พจน์ เอาคู่กรณีที่ต่อยกันไปโรงพัก กองเชียร์ไม่ต้องเอาไป” ผมสั่ง ส.ต.ต.สุพจน์ฯ พอสิ้นคำสั่งผม ก็มีเสียงจากคู่กรณีลั่นออกมา คู่กรณี 1 “เอากูไปโรงพักไม่ได้ กูหลานบิ๊กจิ๋ว” เอาอีกแล้ว เจอคนใหญ่คนโตอีกแล้ว เซ็งว่ะ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเหมือนกัน เสียฟอร์มแย่ กองเชียร์เพียบ หญิงมุงดูก็เยอะ อยากรู้เหมือนกัน มันจะเอาอะไรมาสู้เค้า ฝ่ายโน้นเค้าหลานนักการเมืองใหญ่ด้วยสิ แต่แล้วมันก็มีคำตอบที่ทำให้ผมถึงกับอึ้ง คู่กรณี 2 “กูก็ไม่ไป กูหลาน แดง ไบเลย์” แดง ไบเลย์ เนี่ยนะ ท่าทางมันคงนึกจะอ้างใครไม่ได้ เอาล่ะวะ ใหญ่ทั้งคู่ คนนึงก็หลานนักการเมืองใหญ่ อีกคนก็หลานนักเลงโตผู้โด่งดัง ไปกันใหญ่ พลัน ก็มีเสียงดังกังวาลออกมาจากลูกน้องคู่ใจผม ส.ต.ต.สุพจน์ “ไม่ต้องมาใหญ่แถวนี้ ไอ้พวกของปลอม ผม ส.ต.ต.สุพจน์ โพธิ์งาม หลานเทพ โพธิ์งาม ของจริง ไปโรงพักทั้งคู่” ไอ้พจน์พูดพร้อมกับยืดอกโชว์ป้ายชื่อให้ทั้งคู่ดู คู่กรณี ผม กองเชียร์ : ??? ไม่น่าเชื่อ ทั้งหลานบิ๊กจิ๋วและหลานแดง ไบเลย์ หน้าจ๋อยเลย ยอมเดินขึ้นรถตำรวจแต่โดยดี พอถึงโรงพัก ผมเลยบันทึกจับกุมทั้งคู่ ข้อหา เมาสุราประพฤติตนวุ่นวายฯ เสียค่าปรับเข้าหลวงเรียบร้อย แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะเสียค่าปรับมันยังมีหน้ามาถามไอ้พจน์อีกว่า “พี่เป็นหลานเทพ โพธิ์งาม จริงๆเหรอพี่” ส.ต.ต.สุพจน์ : “ เปล่าว่ะ ของปลอมเหมือนกัน นามสกุลตรงกันเฉยๆ”

๓ ความคิดเห็น:

  1. ฮา อีกแล้ว เรื่องของพี่ ดามพ์
    พี่ดามพ์ ต้องเบ่งมั่งนะคะ
    เอ เอ ว่าแต่ พี่ขอลายเซนต์ เค้ามารึเปล่า ลูกหลาน คนดังน่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ๑๒:๑๔ หลังเที่ยง

    สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ๑:๔๘ หลังเที่ยง

    แดงสุดยอด

    ตอบลบ